MOEDojo
Saturday, November 24, 2018
ทฤษฏี Love Live School Idol Project.
ไอแซ็ค นิวตัน : SSR ตกลงมาจากการสุ่มด้วยทฤษฏีของปริมาณการทุ่ม Love Gems.
กาลิเลโอ : โลกไม่ได้กลม แต่กระเป๋าเงินจะล่มจมตามอารมณ์ School Idol.
อัลเบิร์ต ไอส์ไตน์ : E=mc^2; พลังใจ จะเท่ากับความโมเอะของ Mari และ Chika ยกกำลังสอง
ดาวิน : ถ้าสุ่มการ์ด R ได้ 1 ใบ เราจงหวังให้ได้อีก 3 ใบ
ชโรดิงเจอร์ ไฮเซนเบิร์ก : เราไม่สามารถระบุเวลาที่ต้นสังกัด Love Live จะออกของใหม่ ๆ มาให้เปย์เมื่อไร แต่สามารถคาดเดาได้ว่า เราต้องเปย์หนักอย่างสาหัสแน่นอน
โธมัส เอลวา เอดิสัน: ถึงแม้จะแข่งขั่น School Idol ไม่ได้ในหนึ่งพันครั้งแรก แต่ก็รู้วิธีที่แข่งขัน School Idol ตั้งหนึ่งพันครั้งแหน่ะ
นีล อาร์มสตรอง : นี่เป็นก้าวเล็ก ๆ ของ School Idol แต่จะเป็นก้าวกระโดดที่จะให้เหล่ามนุษย์ต้องเปย์เพื่อ Idol อย่างหนัก
บิลเกตต์ : Love Live School Idol Project ควรเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยี .NET
เลียส ซีซ่าร์ : Step Zero To One ไม่ได้สำเร็จภายในวันเดียว
นโปเลียน : School Idol มีกำลังได้ ด้วย ความอวยของเหล่า โอตะ
John F. Kenedy: อย่าถามว่า Love Live School Idol Project จะออกไอเท็มอะไรให้เราเปย์บ้าง แต่จงถามว่า ท่านเปย์ไอเท็ม Love Live School Idol Project อะไรบ้าง
มาร์กซ์ : Player สายเปย์อย่างเรา แม้เปย์หนักก็ยังได้การ์ด R ส่วน Player สาย Free แม้ไม่เปย์ ก็ได้การ์ด SSR ในคราวเดียว Player สายเปย์ จงลุกขึ้นปฏิวัติ
มหาตมะ คานธี : ถึงผมจะไม่เห็นด้วยกับการที่เสี่ยงไปประกวด School Idol แต่ผมยินดีที่จะสละชีวิตของผม เพื่อ สาว ๆที่จะประกวด School Idol
เติ้งเสี่ยวผิง : จะ Kousaka Honoka หรือ Takami Chika ขอให้ User กดเข้ามาเล่นเกมส์ Love Live School Idol Project Festival ไดเป็นพอ
โกวเล้ง : เรามิได้ชมชอบการเป็น School Idol ของพวกเธอ แต่เราชมชอบ ฉาก Yuri ระหว่างสมาชิกในวงตะหาก
ขงจื้อ : หนทางการเป็น School Idol เริ่มต้นจากการประกาศว่า โรงเรียนจะถูกปิด
ขงเบ้ง : การสุ่มการ์ด SSR เป็นเรื่องของผู้เล่น แต่ความสำเร็จขึ้นอยู่กับ Love Gems.
จิวยี่: ฟ้าส่งให้ Muse มาเกิด ไยทำไมต้องส่ง Aqours และ PDP มาด้วย
เล่าปี่ : พูดถึง SSR การ์ด R ก็มา
ศรีวราห์ : จะเป็น School Idol มีใบอนุญาตหรือยัง
ประยุทธ์ : ปั๊ด เดียวทุ่มด้วย Tera Jumbo Nesoberi
อภิสิทธ์ : ผมไม่พร้อมที่จะชนะประกวด School Idol แต่ผมพร้อมที่จะเป็นสุดยอด School Idol.
เปรมชัย : ผมไม่ได้ตั้งใจให้ได้การ์ด R แค่มือมันลั่น
สตีเว่น ฮอกกินส์ : Love Live School Idol Project มันถูกกำหนดมา ตั้งแต่วินาทีแรก ที่เกิดบิ๊กแบงแล้ว
พิทากอรัส : สคูลไอดอล 9 คน ยืนทำมุมรวมกันได้ 180 องศา
สฤษดิ์ ธนะรัชต์ : พบคอนเสริ์ตวง Muse กันใหม่ เมื่อชาติต้องการ
เผ่า สียานนท์ : ภายไต้ดวงอาทิตย์ ไม่มีอะไรที่ School Idol ทำไม่ได้
BNK48 : ให้ School Idol ทำนายกัน
เฌอปราง BNK48 : พวกเธอที่จะเป็น School Idol เขาคงคิดดีแล้วหล่ะ
ไอ้มดแดง : สู้ต่อไป .... ทาคามิ
เจได : ขอพลัง School Idol จงสถิตอยู่กับเจ้า
น็อต : กราบ School Idol กู
Tuesday, November 14, 2017
Java: How to create zip archive from byte array data.
Beside create compressed archive from files, We can create from byte array that is stored in memory and not necessary to write byte array down to disk before create it. For this reason, the application will have better performance because less I/O operation.
2.1 Write to file.
The example can be downloaded in following github:
1. For write to file example.
https://github.com/benzyaa/javademo/tree/master/compressfilebytearraydemo
2. For write to servlet response.
https://github.com/benzyaa/javademo/tree/master/compressfilebytearraydemoservlet
Further Information:
https://commons.apache.org/proper/commons-compress/index.html
https://mvnrepository.com/artifact/org.apache.commons/commons-compress
The following tutorial, we show how to create zip archive from byte array.
1. Add dependency.
2. Implement The following example code.<!-- https://mvnrepository.com/artifact/org.apache.commons/commons-compress --><dependency><groupId>org.apache.commons</groupId><artifactId>commons-compress</artifactId><version>1.15</version></dependency>
2.1 Write to file.
package com.haruka.compressfilebytearraydemo; import java.io.FileOutputStream; import java.io.IOException; import java.util.ArrayList; import java.util.List; import org.apache.commons.compress.archivers.zip.ZipArchiveEntry; import org.apache.commons.compress.archivers.zip.ZipArchiveOutputStream; public class App { public static void main( String[] args ) { ZipArchiveOutputStream zOutputStream = null; FileOutputStream fileOutputStream = null; try { List<byte[]> byteArrayListToWrite = new ArrayList<byte[]>(); byteArrayListToWrite.add("THIS IS DATA TO TEST WHRITE ZIP WITH BYTE ARRAY 1".getBytes()); byteArrayListToWrite.add("THIS IS DATA TO TEST WHRITE ZIP WITH BYTE ARRAY 2".getBytes()); byteArrayListToWrite.add("THIS IS DATA TO TEST WHRITE ZIP WITH BYTE ARRAY 3".getBytes()); fileOutputStream = new FileOutputStream("C:\\DEMO\\bytearrayarchivedemo.zip"); //path to save archive file. zOutputStream = new ZipArchiveOutputStream(fileOutputStream); for(int i=0;i<byteArrayListToWrite.size();i++) { byte[] dataToWrite = byteArrayListToWrite.get(i); ZipArchiveEntry zEntry = new ZipArchiveEntry("file_"+i+".txt"); // create zip entry and specific file name. zEntry.setSize(dataToWrite.length); //set size of data. zOutputStream.putArchiveEntry(zEntry); //add entry. zOutputStream.write(dataToWrite); zOutputStream.closeArchiveEntry(); // commit added entry (commit file). } }catch(Exception ex) { ex.printStackTrace(); }finally { try { if(zOutputStream != null) { zOutputStream.flush(); //save file. zOutputStream.close(); } if(fileOutputStream != null) { fileOutputStream.close(); } } catch (IOException e) { e.printStackTrace(); } } } }2.2 Write to servlet response.
package com.haruka.compressfilebytearraydemoservlet.servlet; import java.io.FileOutputStream; import java.io.IOException; import java.util.ArrayList; import java.util.List; import javax.servlet.ServletException; import javax.servlet.http.HttpServlet; import javax.servlet.http.HttpServletRequest; import javax.servlet.http.HttpServletResponse; import org.apache.commons.compress.archivers.zip.ZipArchiveEntry; import org.apache.commons.compress.archivers.zip.ZipArchiveOutputStream; public class CompressFileByteArrayDemo extends HttpServlet{ @Override protected void doGet(HttpServletRequest request, HttpServletResponse response) throws ServletException, IOException { ZipArchiveOutputStream zOutputStream = null; try { List<byte[]> byteArrayListToWrite = new ArrayList<byte[]>(); byteArrayListToWrite.add("THIS IS DATA TO TEST WHRITE ZIP WITH BYTE ARRAY 1".getBytes()); byteArrayListToWrite.add("THIS IS DATA TO TEST WHRITE ZIP WITH BYTE ARRAY 2".getBytes()); byteArrayListToWrite.add("THIS IS DATA TO TEST WHRITE ZIP WITH BYTE ARRAY 3".getBytes()); response.setContentType("application/zip"); //set content type zOutputStream = new ZipArchiveOutputStream(response.getOutputStream()); for(int i=0;i<byteArrayListToWrite.size();i++) { byte[] dataToWrite = byteArrayListToWrite.get(i); ZipArchiveEntry zEntry = new ZipArchiveEntry("file_"+i+".txt"); // create zip entry and specific file name. zEntry.setSize(dataToWrite.length); //set size of data. zOutputStream.putArchiveEntry(zEntry); //add entry. zOutputStream.write(dataToWrite); zOutputStream.closeArchiveEntry(); // commit added entry (commit file). } }catch(Exception ex) { ex.printStackTrace(); }finally { try { if(zOutputStream != null) { zOutputStream.flush(); //save file. zOutputStream.close(); } } catch (IOException e) { e.printStackTrace(); } } } }Furthermore, the example can be adapt with other outputStream for any purpose.
The example can be downloaded in following github:
1. For write to file example.
https://github.com/benzyaa/javademo/tree/master/compressfilebytearraydemo
2. For write to servlet response.
https://github.com/benzyaa/javademo/tree/master/compressfilebytearraydemoservlet
Further Information:
https://commons.apache.org/proper/commons-compress/index.html
https://mvnrepository.com/artifact/org.apache.commons/commons-compress
Wednesday, November 8, 2017
รายงานการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นสไตล์คนบ้าอนิเมะ ตอนที่ 3 Happy Party Train - ส่วนที่ 2
Happy Party Train
ทีั่นั่งของผมเป็นที่นั่งชนชั้นสูงที่สูงจนเห็นนักพากย์ตัวเท่ามด รอบ ๆ ที่นั่งของผม ข้างซ้ายมีอเป็นผู้ชายใสชุดขาว ซึ่งไม่ได้เตรียมตัวและไม่ค่อยอินกับบรรยากาศคอนเสริ์ต และ ข้างขวามือ เป็นสาวรูปร่างท้วมที่มากับแฟนหนุ่มที่นั่งถัดไปจากเธอ แต่สิ่งที่ผมแปลกใจคือ มีผู้ชายรุ่นลุงของผมมาดูด้วยซึ่งหน้าจะเป็นพ่อแม่ของเด็กที่มาดูคอนเสริ์ต
พอคอนเสริ์ตเริ่ม ผมก็ได้โบกแท่งไฟพร้อมกับใจที่คลั่งใคล้แล้วส่งเสียง ให้กับตัวละครแต่ละตัว และต่อจากนั้น ก็มีหัวรถจักรไอน้ำแล่นออกมา พร้อมกับนักพากย์ที่สวมชุดใน PV 3 Happy Party Train ซึ่งทำให้ผู้ชมส่งเสียงดังเข้าไปอีก ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ส่งเสียงดังมากกว่าเดิม ถึงแม้จะเห็นพวกเธอตัวเท่ามดก็ตาม
เพลง Happy Party Train นั้นเป็นเพลงแรกที่พวกเธอร้อง และตามด้วยเพลง Pops heart de Odorun damon! ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี หลังจากสองเพลงจบไปแล้ว นักพากย์แต่ละคนก็แนะนำตัวกันตามลำดับ นักพากย์ที่ผมชอบ เห็นจะเป็น Saito Shuka, Furihata Ai, Inami Anju หรือจำง่าย ๆ ก็คือ CyaRon นั่นเอง ผมส่งเสียงตอบรับให้กับนักพากย์ ที่จะตะโกนดังเป็นพิเศษคือ Kan Kan Mikan, Ganbaruby, Yosoro, และ Dia Dia Ho!!! การพูดคุยกับผู้ชมเป็นไปด้วยดี ถึงแม้ผมเองจะฟังไม่รู้เรื่องก็ตาม จนกระทั่งการแนะนำตัวของ Aida Rikako ซึ่งทำให้ผมใจหายใจคว่ำ เพราะสะดุด เนื่องจากตื่นเต้นมากเกินไป จนทำให้ นักพากย์คนอื่น ๆ ต้องเอาน้ำมาให้ดื่ม
หลังจากแนะนำตัวผ่านพ้นไป พวกเธอก็ได้ร้องเพลงใหม่ ที่ผมยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ซึ่งเพลงแต่ละเพลงเป็นการจับคู่ตัวละครที่ ผมเองก็ไม่นึกไม่ฝันมาก่อน เช่น Watanabe You กับ Tsukishima Yoshiko และ Matsuura Kanan กับ Takami Chika และ Kunikida Hanamaru กับ Sakurauchi Riko กับ Ohara Mari และที่ต้องประทับใจหลายคนคือ Kurosawa Dia กับ Kurosawa Ruby ซึ่งเป็นพี่น้องที่น่ารักน่าแกล้ง
เมื่อคอนเสริ์ตดำเนินไปจนหมดช่วงแรก ก็ถึงเวลาพักเบรคของนักพากย์ ส่วนผมเองก็อยากพักเบรคด้วยเช่นกัน จึงโน้มตัวลงนั่งเก้าอี้ พร้อมดื่มน้ำ และ ดูการ์ตูนคั่นรายการ ที่ผมเองไม่มีทางเข้าใจเรื่องราว เพราะพูดแต่ภาษาญี่ปุ่น
หลังจากพักเหนื่อย เสียงเพลงที่ผมชื่นชอบและคุ้นเคยก็เริ่มดังขึ้น คือเพลง Mijuku DREAMER และ Koi Ni Naritai Aquarium ตามลำดับ และตามด้วยเพลงอีกหลายเพลง ที่แฟนอนิเมะ Love Live มักคุ้นเคยกัน แต่เพลงที่ทำให้ผมสนุกเป็นอย่างมาก คือเพลง Kinmirai Happy End เพราะเป็นเพลงที่ร้องโดย CyaRon ซึ่งเป็นยูนิตที่ผมชอบนั่นเอง
หลังจากหลายเพลงจบไป ผมจึงได้นั่งพักเบรคพร้อมกับดูการ์ตูนคั่นรายการอีกครั้ง หลังจากพักได้ไม่นานนัก เสียงเพลง Aozora Jumping Heart ก็ได้ปลุกผมให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง และตามด้วยช่วงเวลาที่สำคตัญคือ ช่วงเวลาของการ Encore.
ผมเปล่งเสียง "อังกอลุ" อย่างสุดกำลัง จนการ์ตูนคั่นรายการเริ่มฉายอีกรอบ ซึ่งเป็นเรื่องราวบนรถไฟ ผมและ Liver คนอื่น ๆ ก็ทำตามที่ตัวการ์ตูนบอกให้ทำ แต่ละคนก็เปล่งเสียงดังทั่วกัน จนกระทั่งมีตุ๊กตาแมวน้ำเคลื่อนออกมา และการเต้นระบำพื้นบ้านญี่ปุ่นก็เริ่มกันทั้งฮอลล์
พอมาถึงช่วงท้ายของคอนเสริ์ต เป็นช่วงท้ายที่ทำให้หลายคนเจอสิ่งที่หายคิดถึง นั่นก็คือ ตัวละครรุ่นพี่วงมิวส์ออกมาทักทายผ่าน วีดีโอโปรโมตเกมส์ Love Live! School Idol Festival ALL STARS ทุกคนร่วมกันส่งเสียงร้องตามตัวละครที่ปรากฏ สำหรับผมเองนั้นได้เปล่งเสียงดัง นิโกะ นิโกะ นี้ เป็นพิเศษ และกล่าวขานชื่อ "โฮโนกะ" อย่างไม่สนใจกล่องเสียงตัวเองอีกด้วย ช่วงท้ายนี้ ทุกคนร่วมกันสนุกกับเพลง Taiyou o Oikakero! และ Landing action Yeah!! ตามลำดับ จนกระทั่ง พวกนักพากย์กลับไปยังเวที และออกจากเวที ด้วยหัวรถจักรเดียวกันที่พวกเธอ นั่งมายังเวที
และไม่นาน ฮออล์คอนเสริ์ตก็บอกกล่าวกับผมว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทางกับเรา บนเพดานฮออล์ จากนั้นผมก็ก้มหัว ให้กับเวที พร้อมกับกล่าวคำว่า "อาริงาโตะ" แล้วเดินออกไป
เสร็จสิ้นการรบ
หลังจากที่ผมเดินพ้นฮออล์มาแล้ว ด้วยบรรยากาศหน้าสถานีรถไฟยังแน่นอยู่ ผมจึงยังอยู่บริเวณหน้าคอนเสริ์ต และเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ สถานที่ แต่ละคนที่มานั้นก็ได้ร่วมถ่ายรูปพร้อมแท่งไฟ และโบกแท่งไฟทักทาย กับคนที่เดินทางมาด้วยรถยนต์อย่างสนุกสนาน จากนั้นผมจึงกลับไปยังที่ขายของหน้าคอนพร้อมกับถ่ายรูปช่อดอกไม้ที่ระลึกที่จัดแสดงเรียงราย พอผ่านพ้นได้ครึ่งชั่วโมง ผมจึงรีบไปยังสถานีรถไฟ เพื่อเดินทางกลับที่พักใน Ikebukuro
ระหว่างการโดยสารรถไฟ เพื่อไปยัง Ikebukuro ผมเห็นผู้โดยสารโดยส่วนใหญ่ ยังคงสวมชุดกัปปิ รวมถึงผมด้วย ท่ามกลางความหนาแน่นของผู้คน แต่สิ่งที่ผมประทับใจ คือ เด็กหญิงวัยรุ่นที่ประดับกระเป๋าและเสื้อผ้าต่าง ๆ ด้วยลาย Kurosawa Ruby และเดินพร้อมมากับแฟนหนุ่ม ที่เป็น Liver ด้วย
ค่ำคืนแห่งความประทับใจ
พอถึง Ikebukuro แล้วผมจึงรีบเข้าที่พัก พอถึงที่พักแล้วก็มี รูมเมทชาวเกาหลีที่ตามผมมาทัน ผมจึงทักไปว่า "ทาไดมะ" และเราก็คุยกันถึงบรรยากาศคอนเสริ์ตในวันนี้ จากนั้นผมจึงอาบน้ำและออกไปกินข้าวที่ร้านคัตสึด้ง พร้อมกับชมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสื้อกัปปิของ Aqours ที่ไม่แตกต่างจาก เมื่อวานเลย คืนนี้ ก่อนจะพักผ่อน ผมได้เล่นเกมส์ Love Live School Idol Project Festival และจากนั้น ก็พักผ่อนเพื่อเก็บแรงไว้ ไปผจญภัย ที่ Akihabara ในวันถัดไป
ตอนที่ 1 การมาถึง และวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ2017
ตอนที่ 2 Panzer Vor !!!
ตอนที่ 3 Happy Party Train ส่วนที่ 1
ทีั่นั่งของผมเป็นที่นั่งชนชั้นสูงที่สูงจนเห็นนักพากย์ตัวเท่ามด รอบ ๆ ที่นั่งของผม ข้างซ้ายมีอเป็นผู้ชายใสชุดขาว ซึ่งไม่ได้เตรียมตัวและไม่ค่อยอินกับบรรยากาศคอนเสริ์ต และ ข้างขวามือ เป็นสาวรูปร่างท้วมที่มากับแฟนหนุ่มที่นั่งถัดไปจากเธอ แต่สิ่งที่ผมแปลกใจคือ มีผู้ชายรุ่นลุงของผมมาดูด้วยซึ่งหน้าจะเป็นพ่อแม่ของเด็กที่มาดูคอนเสริ์ต
พอคอนเสริ์ตเริ่ม ผมก็ได้โบกแท่งไฟพร้อมกับใจที่คลั่งใคล้แล้วส่งเสียง ให้กับตัวละครแต่ละตัว และต่อจากนั้น ก็มีหัวรถจักรไอน้ำแล่นออกมา พร้อมกับนักพากย์ที่สวมชุดใน PV 3 Happy Party Train ซึ่งทำให้ผู้ชมส่งเสียงดังเข้าไปอีก ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ส่งเสียงดังมากกว่าเดิม ถึงแม้จะเห็นพวกเธอตัวเท่ามดก็ตาม
เพลง Happy Party Train นั้นเป็นเพลงแรกที่พวกเธอร้อง และตามด้วยเพลง Pops heart de Odorun damon! ที่หลายคนคุ้นเคยกันดี หลังจากสองเพลงจบไปแล้ว นักพากย์แต่ละคนก็แนะนำตัวกันตามลำดับ นักพากย์ที่ผมชอบ เห็นจะเป็น Saito Shuka, Furihata Ai, Inami Anju หรือจำง่าย ๆ ก็คือ CyaRon นั่นเอง ผมส่งเสียงตอบรับให้กับนักพากย์ ที่จะตะโกนดังเป็นพิเศษคือ Kan Kan Mikan, Ganbaruby, Yosoro, และ Dia Dia Ho!!! การพูดคุยกับผู้ชมเป็นไปด้วยดี ถึงแม้ผมเองจะฟังไม่รู้เรื่องก็ตาม จนกระทั่งการแนะนำตัวของ Aida Rikako ซึ่งทำให้ผมใจหายใจคว่ำ เพราะสะดุด เนื่องจากตื่นเต้นมากเกินไป จนทำให้ นักพากย์คนอื่น ๆ ต้องเอาน้ำมาให้ดื่ม
หลังจากแนะนำตัวผ่านพ้นไป พวกเธอก็ได้ร้องเพลงใหม่ ที่ผมยังไม่เคยได้ยินมาก่อน ซึ่งเพลงแต่ละเพลงเป็นการจับคู่ตัวละครที่ ผมเองก็ไม่นึกไม่ฝันมาก่อน เช่น Watanabe You กับ Tsukishima Yoshiko และ Matsuura Kanan กับ Takami Chika และ Kunikida Hanamaru กับ Sakurauchi Riko กับ Ohara Mari และที่ต้องประทับใจหลายคนคือ Kurosawa Dia กับ Kurosawa Ruby ซึ่งเป็นพี่น้องที่น่ารักน่าแกล้ง
เมื่อคอนเสริ์ตดำเนินไปจนหมดช่วงแรก ก็ถึงเวลาพักเบรคของนักพากย์ ส่วนผมเองก็อยากพักเบรคด้วยเช่นกัน จึงโน้มตัวลงนั่งเก้าอี้ พร้อมดื่มน้ำ และ ดูการ์ตูนคั่นรายการ ที่ผมเองไม่มีทางเข้าใจเรื่องราว เพราะพูดแต่ภาษาญี่ปุ่น
หลังจากพักเหนื่อย เสียงเพลงที่ผมชื่นชอบและคุ้นเคยก็เริ่มดังขึ้น คือเพลง Mijuku DREAMER และ Koi Ni Naritai Aquarium ตามลำดับ และตามด้วยเพลงอีกหลายเพลง ที่แฟนอนิเมะ Love Live มักคุ้นเคยกัน แต่เพลงที่ทำให้ผมสนุกเป็นอย่างมาก คือเพลง Kinmirai Happy End เพราะเป็นเพลงที่ร้องโดย CyaRon ซึ่งเป็นยูนิตที่ผมชอบนั่นเอง
หลังจากหลายเพลงจบไป ผมจึงได้นั่งพักเบรคพร้อมกับดูการ์ตูนคั่นรายการอีกครั้ง หลังจากพักได้ไม่นานนัก เสียงเพลง Aozora Jumping Heart ก็ได้ปลุกผมให้กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง และตามด้วยช่วงเวลาที่สำคตัญคือ ช่วงเวลาของการ Encore.
ผมเปล่งเสียง "อังกอลุ" อย่างสุดกำลัง จนการ์ตูนคั่นรายการเริ่มฉายอีกรอบ ซึ่งเป็นเรื่องราวบนรถไฟ ผมและ Liver คนอื่น ๆ ก็ทำตามที่ตัวการ์ตูนบอกให้ทำ แต่ละคนก็เปล่งเสียงดังทั่วกัน จนกระทั่งมีตุ๊กตาแมวน้ำเคลื่อนออกมา และการเต้นระบำพื้นบ้านญี่ปุ่นก็เริ่มกันทั้งฮอลล์
พอมาถึงช่วงท้ายของคอนเสริ์ต เป็นช่วงท้ายที่ทำให้หลายคนเจอสิ่งที่หายคิดถึง นั่นก็คือ ตัวละครรุ่นพี่วงมิวส์ออกมาทักทายผ่าน วีดีโอโปรโมตเกมส์ Love Live! School Idol Festival ALL STARS ทุกคนร่วมกันส่งเสียงร้องตามตัวละครที่ปรากฏ สำหรับผมเองนั้นได้เปล่งเสียงดัง นิโกะ นิโกะ นี้ เป็นพิเศษ และกล่าวขานชื่อ "โฮโนกะ" อย่างไม่สนใจกล่องเสียงตัวเองอีกด้วย ช่วงท้ายนี้ ทุกคนร่วมกันสนุกกับเพลง Taiyou o Oikakero! และ Landing action Yeah!! ตามลำดับ จนกระทั่ง พวกนักพากย์กลับไปยังเวที และออกจากเวที ด้วยหัวรถจักรเดียวกันที่พวกเธอ นั่งมายังเวที
และไม่นาน ฮออล์คอนเสริ์ตก็บอกกล่าวกับผมว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทางกับเรา บนเพดานฮออล์ จากนั้นผมก็ก้มหัว ให้กับเวที พร้อมกับกล่าวคำว่า "อาริงาโตะ" แล้วเดินออกไป
เสร็จสิ้นการรบ
หลังจากที่ผมเดินพ้นฮออล์มาแล้ว ด้วยบรรยากาศหน้าสถานีรถไฟยังแน่นอยู่ ผมจึงยังอยู่บริเวณหน้าคอนเสริ์ต และเดินชมบรรยากาศรอบ ๆ สถานที่ แต่ละคนที่มานั้นก็ได้ร่วมถ่ายรูปพร้อมแท่งไฟ และโบกแท่งไฟทักทาย กับคนที่เดินทางมาด้วยรถยนต์อย่างสนุกสนาน จากนั้นผมจึงกลับไปยังที่ขายของหน้าคอนพร้อมกับถ่ายรูปช่อดอกไม้ที่ระลึกที่จัดแสดงเรียงราย พอผ่านพ้นได้ครึ่งชั่วโมง ผมจึงรีบไปยังสถานีรถไฟ เพื่อเดินทางกลับที่พักใน Ikebukuro
ระหว่างการโดยสารรถไฟ เพื่อไปยัง Ikebukuro ผมเห็นผู้โดยสารโดยส่วนใหญ่ ยังคงสวมชุดกัปปิ รวมถึงผมด้วย ท่ามกลางความหนาแน่นของผู้คน แต่สิ่งที่ผมประทับใจ คือ เด็กหญิงวัยรุ่นที่ประดับกระเป๋าและเสื้อผ้าต่าง ๆ ด้วยลาย Kurosawa Ruby และเดินพร้อมมากับแฟนหนุ่ม ที่เป็น Liver ด้วย
ค่ำคืนแห่งความประทับใจ
พอถึง Ikebukuro แล้วผมจึงรีบเข้าที่พัก พอถึงที่พักแล้วก็มี รูมเมทชาวเกาหลีที่ตามผมมาทัน ผมจึงทักไปว่า "ทาไดมะ" และเราก็คุยกันถึงบรรยากาศคอนเสริ์ตในวันนี้ จากนั้นผมจึงอาบน้ำและออกไปกินข้าวที่ร้านคัตสึด้ง พร้อมกับชมบรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสื้อกัปปิของ Aqours ที่ไม่แตกต่างจาก เมื่อวานเลย คืนนี้ ก่อนจะพักผ่อน ผมได้เล่นเกมส์ Love Live School Idol Project Festival และจากนั้น ก็พักผ่อนเพื่อเก็บแรงไว้ ไปผจญภัย ที่ Akihabara ในวันถัดไป
ตอนที่ 1 การมาถึง และวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ2017
ตอนที่ 2 Panzer Vor !!!
ตอนที่ 3 Happy Party Train ส่วนที่ 1
รายงานการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นสไตล์คนบ้าอนิเมะ ตอนที่ 3 Happy Party Train - ส่วนที่ 1
มุ่งหน้าสู่โตเกียว
ผมเดินทางออกจากเมืองมิโตะด้วยรถไฟฟ้า สวย Joban Line ไปยัง Kashiwa Station เพื่อต่อรถไฟสาย Tobu-Noda Line ไปหาญาติที่ Atago Station เพื่อไปเอาตั๋วคอนเสริ์ตที่ผมได้ประมูลไว้ได้ ในช่วงปลายเดือน มิถุนายน หลังจากที่ผมได้รับตั๋วคอนเสริ์ตเรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางกลับมา ยัง Kashiwa Station และมุ่งหน้าสู่ Ikebukuro
ผมเดินทางจาก Kashiwa Station แล้วเมื่อถึง Nippori Station ผมจึงได้เปลี่ยนขบวนรถเป็นสาย Yamanote Line เพื่อเดินทางต่อ ไปยัง Ikebukuro Station.
การเดินทางจาก Mito Station ไปยัง Ikebukuro Station
Mito Station ------( Joban Line) ----> Nippori Station ----- (Yamanote Line) ------>Ikebukuro Station.
การต้อนรับของเหล่า LoveLiver
เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า Ikebukuro แล้ว ผมจึงรีบเดินออกจากสถานีไปยังประตู ทิศตะวันออก เพื่อไปยังโรงแรม Sakura Hostel Ikebukuro ที่ห่างไปประมาณ 500 เมตร ระหว่างการเดินไปยังโรงแรมนั้น ผมได้พบเจอผู้คนพลุกพล่าน และที่สะดุดตาผมก็คือ กลุ่มคนที่สวมเสื่อ กัปปิ ที่มีคำว่า Aqours ที่น่าจะกลับมาจาก การเชียร์คอนเสริ์ตวันแรกของ Aqours 2nd Live Happy Party Train Tour พอเดินไปเกือบถึงโรงแรม ผมเจอเด็กผู้หญิง ถือป้าย ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า 50 นาที 5000 เยน แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่ามันคืออะไร จนกระทั่งผมถึงโรงแรม
เมื่อผม Check In ที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ผมจึงไม่รอช้าที่จะขึ้นไปยังห้องพักตามที่เจ้าหน้าที่ระบุไว้ ห้องพัก เป็นห้องพักรวม ห้องหนึ่งนอนได้ 8 คน และคนที่พักในห้องวันนี้ (29 กันยายน 2560) 5 ใน 8 ล้วนเป็น LoveLiver ที่เดินทางเพื่อมาดูคอนเสริ์ต พวกเขาต้อนรับผมอย่างอบอุ่นด้วยการแนะนำตัวและประเทศที่มา หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องอนิเมะที่ตัวเองชอบอย่างออกรสชาติ ในห้องนี้มีคน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง และ ไทยก็คือผมเอง และแถมอีกคนหนึ่งที่มาจาก เยอรมนี ถึงแม้จะไม่ได้เป็น LoveLiver แต่ก็ชอบอนิเมะ AKB0048 และยังเล่นเกมส์ตู้ได้หมอนรูป Kurosawa Ruby ทำให้ผมอิจฉาตาร้อนอย่างมาก ผมใช้เวลาคุยเรื่องอนิเมะประมาณ ครึ่งชั่วโมง จึงขอตัวไปทำธุระส่วนตัว และออกไปกินมื้อเย็น ที่ร้านราเม็งยืนกิน ซึ่งไม่ใกลจาก ที่พักเท่าไรนัก
การพักผ่อนวันนี้ ยังไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไร เพราะด้วยนอนกับคนอื่น ๆ และ รูมเมทจากฮ่องกงวันนี้ก็ยังไม่หลับ และที่สำคัญ ผมตื่นเต้นกับคอนเสริ์ตที่จะถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ผมนอนหลับแค่ 3 ชั่วโมง เท่านั้นเอง
อรุณสวัสดิ์ของการเดินทางสู่ Happy Party Train
เช้าของวันที่ 30 หลังจากที่ผมเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว จึงได้นั่งเล่นที่ห้องอาหารรวม และคุยกับ Liver ญี่ปุ่นที่จะ Check Out และไปดูคอนเสริ์ตวันนี้ เราคุยกันถึงการเดินทางที่สะดวกที่สุด และ คุยในเรื่อง ส่วนตัวทั่ว ๆ ไป จนกระทั่งถึงเวลา 10 โมง ผมก็ได้แยกย้าย และ ออกไปรับประทานอาหารเช้าที่ ร้านอาหารตรงข้ามโรงแรม และออกเดินทางต่อไป
ก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้า Ikebukuro ผมได้แวะเที่ยวห้างสรรพสินค้าที่อยู่มุมสีแยก ซึ่งผมจำไม่ได้ว่า ห้างชื่ออะไร ผมเข้าไปในห้างและเดินไปชั้นบนสุด เพื่อดูสินค้า ในร้าน Aqours Shop ที่วันนี้คนเข้าคิวเยอะ และด้วยความที่ผมไม่รู้ว่า ต้องเข้าแถว ผมจึงเดินเข้าไปดูชั้นวางของ ถ่ายรูป และก็รีบออกมา เพราะคิดว่า ไปซื้อที่ Akiba หรือไม่ก็ที่ เมือง Numazu ดีกว่า
ออกเดินทางสู่ Happy Party Train
การเดินทางไปยัง Seibu MetLife Dome ที่สะดวกที่สุด ต้องเดินทางด้วย รถไฟสาย Seibu Line จาก Ikebukuro เพื่อไปลงยังสถานี SeibuKyujo-Mae ในระหว่างการเดินทางนั้น ผมได้พบเจอ LoveLiver ทยอยขึ้นรถไฟมาทีละสถานี แต่ละคนแสดงออกถึงความเป็น LoveLiver อย่างไม่น้อยหน้า่ บางคนสวมแค่เสื้อลายตัวละคร เยอะขึ้นมาหน่อย อาจจะสวมกัปปิ และที่น่าสนใจที่สุด มีบางคน Cosplay เป็นตัวละครใน LoveLive ซึ่งทำให้ผมอดใจไม่ใหว ที่จะต้องมอง และยิ่งถ้าเป็นสาว ๆ ที่แต่งชุด Tsukishima Yoshiko หรือ Sakurauchi Riko ผมจะชอบมองเป็นพิเศษ กา่รเดินทางดำเนินไปเรื่อย ๆ จนผมเห็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างเยอะ มันบ่งบอกผมว่า ได้ถึงสถานที่แห่งความสนุกแล้ว
การเดินทางไปยัง Seibu MetLife-Dome.
Ikebukuro Station -------- (Seibu Ikebukuro Line) -------------> SeibuKyujo-Mae (Station).
บรรยากาศน่าสนุกแต่โดดเดี่ยว
บรรยากาศบริเวณ Seibu MetLife Dome ล้วนเต็มไปด้วยความสนุกสนานที่วุ่นวาย ผู้คนแต่ละกลุ่มนั้นล้วนนัดแนะกันถ่ายรูป พูดคุยในความชื่นชอบของ LoveLive รับประทานอาหาร และแลกเปลี่ยนของสะสมที่ตนเองชื่นชอบ สำหรับผมเอง ผู้ที่ซึ่งมาเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว ก็อยู่ท่ามกลางบรรยากาศอย่างโดดเดี่ยว แต่ก็ไปถ่ายรูป ซุ้มดอกไม้แสดงความยินดีบ้าง เดินชมสาว ๆ Liver รอบงานบ้าง โดยเฉพาะสาวที่ Cosplay มาร่วมงาน แต่สิ่งที่สะดุดตาผมคือ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง นั่งรถเข็น ที่คุณพ่อของเขานั้นได้เข็นเพื่อพาลูกมาดูคอนเสริ์ต และรถเข็นคันดังกล่าวนั้นก็ได้ประดับตกแต่งตัวละคร Sakurauchi Riko อย่างน่ารัก ซึ่งน่าจะเป็นตัวละครที่เด็กหนุ่มชื่นชอบ
พอเดินซึมซับบรรยากาศได้สักพัก ผมจึงได้ไปซื้อสินค้าคอนเสริ์ตที่สนามกีฬาใกล้เคียง ของที่ขายนั้นหลากหลายมาก จนผมอยากจะซื้อทุกชิ้น แต่ว่าด้วยทุนทรัพย์ ผมจึงต้องเลือกซื้อ เสื้อกัปปิ และ โปสเตอร์ขนาด B2 เพื่อเป็นที่ระลึก ในที่เดียวกันนั้น ก็ได้มีจุดแลกเปลี่ยนของ ซึ่งเป็นของที่อยากจับจองเพื่อเป็นเจ้าของ แต่ทว่า จุดนี้ ไม่สามารถซื้อของด้วยเงินสดได้ ต้องเอาของที่ตนเองมีเกี่ยวกับ Love Live มาแลกเปลี่ยนเท่านั้น ให้ความรู้สึกแบบ Barter Trade หรือ หมูไปไก่มา
หลังจากที่ผมซื้อของเสร็จแล้ว จึงรีบรุดหน้าไปยัง Family Mart เพื่อซื้อน้ำดื่มที่มีรูปตัวละคร Aqours อยู่หน้าขวด กว่าจะได้ซื้อก็รอนานมาก เพราะคิวนั้นยาวไม่แพ้กันกับที่ซื้อของหน้าคอนเสริ์ตแม้แต่น้อย
ผมนั่งรอเวลาประตูเปิดไปเรื่อยๆ ดูบรรยากาศซ้ำเดิม จนกระทั่งเวลา 16.45 น. ผมจึงได้เข้าไปในที่นั่งเพื่อรับชมคอนเสริ์ต ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก
ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าคอนเสริ์ต
ตอนที่ 1 การมาถึง และวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ2017
ตอนที่ 2 Panzer Vor !!!
ผมเดินทางออกจากเมืองมิโตะด้วยรถไฟฟ้า สวย Joban Line ไปยัง Kashiwa Station เพื่อต่อรถไฟสาย Tobu-Noda Line ไปหาญาติที่ Atago Station เพื่อไปเอาตั๋วคอนเสริ์ตที่ผมได้ประมูลไว้ได้ ในช่วงปลายเดือน มิถุนายน หลังจากที่ผมได้รับตั๋วคอนเสริ์ตเรียบร้อยแล้ว จึงเดินทางกลับมา ยัง Kashiwa Station และมุ่งหน้าสู่ Ikebukuro
ป้ายโฆษณาที่สถานี Kashiwa |
ป้ายโฆษณาการท่องเที่ยวที่สถานี Atago สาย Tobu-Noda Line |
ผมเดินทางจาก Kashiwa Station แล้วเมื่อถึง Nippori Station ผมจึงได้เปลี่ยนขบวนรถเป็นสาย Yamanote Line เพื่อเดินทางต่อ ไปยัง Ikebukuro Station.
การเดินทางจาก Mito Station ไปยัง Ikebukuro Station
Mito Station ------( Joban Line) ----> Nippori Station ----- (Yamanote Line) ------>Ikebukuro Station.
ป๊ายโฆษณาเกมส์ออนไลน์ Love Live School Idol Festival ที่สถานี Nippori |
การต้อนรับของเหล่า LoveLiver
เมื่อถึงสถานีรถไฟฟ้า Ikebukuro แล้ว ผมจึงรีบเดินออกจากสถานีไปยังประตู ทิศตะวันออก เพื่อไปยังโรงแรม Sakura Hostel Ikebukuro ที่ห่างไปประมาณ 500 เมตร ระหว่างการเดินไปยังโรงแรมนั้น ผมได้พบเจอผู้คนพลุกพล่าน และที่สะดุดตาผมก็คือ กลุ่มคนที่สวมเสื่อ กัปปิ ที่มีคำว่า Aqours ที่น่าจะกลับมาจาก การเชียร์คอนเสริ์ตวันแรกของ Aqours 2nd Live Happy Party Train Tour พอเดินไปเกือบถึงโรงแรม ผมเจอเด็กผู้หญิง ถือป้าย ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า 50 นาที 5000 เยน แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่ามันคืออะไร จนกระทั่งผมถึงโรงแรม
ป้ายโฆษณาขายสินค้า Love Live School Idol Project sunshine ที่ห้างแห่งหนึ่ง ใน Ikebukuro. |
เมื่อผม Check In ที่โรงแรมเรียบร้อยแล้ว ผมจึงไม่รอช้าที่จะขึ้นไปยังห้องพักตามที่เจ้าหน้าที่ระบุไว้ ห้องพัก เป็นห้องพักรวม ห้องหนึ่งนอนได้ 8 คน และคนที่พักในห้องวันนี้ (29 กันยายน 2560) 5 ใน 8 ล้วนเป็น LoveLiver ที่เดินทางเพื่อมาดูคอนเสริ์ต พวกเขาต้อนรับผมอย่างอบอุ่นด้วยการแนะนำตัวและประเทศที่มา หลังจากนั้นก็คุยกันเรื่องอนิเมะที่ตัวเองชอบอย่างออกรสชาติ ในห้องนี้มีคน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง และ ไทยก็คือผมเอง และแถมอีกคนหนึ่งที่มาจาก เยอรมนี ถึงแม้จะไม่ได้เป็น LoveLiver แต่ก็ชอบอนิเมะ AKB0048 และยังเล่นเกมส์ตู้ได้หมอนรูป Kurosawa Ruby ทำให้ผมอิจฉาตาร้อนอย่างมาก ผมใช้เวลาคุยเรื่องอนิเมะประมาณ ครึ่งชั่วโมง จึงขอตัวไปทำธุระส่วนตัว และออกไปกินมื้อเย็น ที่ร้านราเม็งยืนกิน ซึ่งไม่ใกลจาก ที่พักเท่าไรนัก
การพักผ่อนวันนี้ ยังไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไร เพราะด้วยนอนกับคนอื่น ๆ และ รูมเมทจากฮ่องกงวันนี้ก็ยังไม่หลับ และที่สำคัญ ผมตื่นเต้นกับคอนเสริ์ตที่จะถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้ ผมนอนหลับแค่ 3 ชั่วโมง เท่านั้นเอง
อรุณสวัสดิ์ของการเดินทางสู่ Happy Party Train
เช้าของวันที่ 30 หลังจากที่ผมเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว จึงได้นั่งเล่นที่ห้องอาหารรวม และคุยกับ Liver ญี่ปุ่นที่จะ Check Out และไปดูคอนเสริ์ตวันนี้ เราคุยกันถึงการเดินทางที่สะดวกที่สุด และ คุยในเรื่อง ส่วนตัวทั่ว ๆ ไป จนกระทั่งถึงเวลา 10 โมง ผมก็ได้แยกย้าย และ ออกไปรับประทานอาหารเช้าที่ ร้านอาหารตรงข้ามโรงแรม และออกเดินทางต่อไป
ก่อนถึงสถานีรถไฟฟ้า Ikebukuro ผมได้แวะเที่ยวห้างสรรพสินค้าที่อยู่มุมสีแยก ซึ่งผมจำไม่ได้ว่า ห้างชื่ออะไร ผมเข้าไปในห้างและเดินไปชั้นบนสุด เพื่อดูสินค้า ในร้าน Aqours Shop ที่วันนี้คนเข้าคิวเยอะ และด้วยความที่ผมไม่รู้ว่า ต้องเข้าแถว ผมจึงเดินเข้าไปดูชั้นวางของ ถ่ายรูป และก็รีบออกมา เพราะคิดว่า ไปซื้อที่ Akiba หรือไม่ก็ที่ เมือง Numazu ดีกว่า
ภาพร้านขายสินค้า Aqours ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน Ikebukuro.
ออกเดินทางสู่ Happy Party Train
การเดินทางไปยัง Seibu MetLife Dome ที่สะดวกที่สุด ต้องเดินทางด้วย รถไฟสาย Seibu Line จาก Ikebukuro เพื่อไปลงยังสถานี SeibuKyujo-Mae ในระหว่างการเดินทางนั้น ผมได้พบเจอ LoveLiver ทยอยขึ้นรถไฟมาทีละสถานี แต่ละคนแสดงออกถึงความเป็น LoveLiver อย่างไม่น้อยหน้า่ บางคนสวมแค่เสื้อลายตัวละคร เยอะขึ้นมาหน่อย อาจจะสวมกัปปิ และที่น่าสนใจที่สุด มีบางคน Cosplay เป็นตัวละครใน LoveLive ซึ่งทำให้ผมอดใจไม่ใหว ที่จะต้องมอง และยิ่งถ้าเป็นสาว ๆ ที่แต่งชุด Tsukishima Yoshiko หรือ Sakurauchi Riko ผมจะชอบมองเป็นพิเศษ กา่รเดินทางดำเนินไปเรื่อย ๆ จนผมเห็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างเยอะ มันบ่งบอกผมว่า ได้ถึงสถานที่แห่งความสนุกแล้ว
การเดินทางไปยัง Seibu MetLife-Dome.
Ikebukuro Station -------- (Seibu Ikebukuro Line) -------------> SeibuKyujo-Mae (Station).
บรรยากาศน่าสนุกแต่โดดเดี่ยว
บรรยากาศบริเวณ Seibu MetLife Dome ล้วนเต็มไปด้วยความสนุกสนานที่วุ่นวาย ผู้คนแต่ละกลุ่มนั้นล้วนนัดแนะกันถ่ายรูป พูดคุยในความชื่นชอบของ LoveLive รับประทานอาหาร และแลกเปลี่ยนของสะสมที่ตนเองชื่นชอบ สำหรับผมเอง ผู้ที่ซึ่งมาเที่ยวญี่ปุ่นคนเดียว ก็อยู่ท่ามกลางบรรยากาศอย่างโดดเดี่ยว แต่ก็ไปถ่ายรูป ซุ้มดอกไม้แสดงความยินดีบ้าง เดินชมสาว ๆ Liver รอบงานบ้าง โดยเฉพาะสาวที่ Cosplay มาร่วมงาน แต่สิ่งที่สะดุดตาผมคือ มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง นั่งรถเข็น ที่คุณพ่อของเขานั้นได้เข็นเพื่อพาลูกมาดูคอนเสริ์ต และรถเข็นคันดังกล่าวนั้นก็ได้ประดับตกแต่งตัวละคร Sakurauchi Riko อย่างน่ารัก ซึ่งน่าจะเป็นตัวละครที่เด็กหนุ่มชื่นชอบ
พอเดินซึมซับบรรยากาศได้สักพัก ผมจึงได้ไปซื้อสินค้าคอนเสริ์ตที่สนามกีฬาใกล้เคียง ของที่ขายนั้นหลากหลายมาก จนผมอยากจะซื้อทุกชิ้น แต่ว่าด้วยทุนทรัพย์ ผมจึงต้องเลือกซื้อ เสื้อกัปปิ และ โปสเตอร์ขนาด B2 เพื่อเป็นที่ระลึก ในที่เดียวกันนั้น ก็ได้มีจุดแลกเปลี่ยนของ ซึ่งเป็นของที่อยากจับจองเพื่อเป็นเจ้าของ แต่ทว่า จุดนี้ ไม่สามารถซื้อของด้วยเงินสดได้ ต้องเอาของที่ตนเองมีเกี่ยวกับ Love Live มาแลกเปลี่ยนเท่านั้น ให้ความรู้สึกแบบ Barter Trade หรือ หมูไปไก่มา
หลังจากที่ผมซื้อของเสร็จแล้ว จึงรีบรุดหน้าไปยัง Family Mart เพื่อซื้อน้ำดื่มที่มีรูปตัวละคร Aqours อยู่หน้าขวด กว่าจะได้ซื้อก็รอนานมาก เพราะคิวนั้นยาวไม่แพ้กันกับที่ซื้อของหน้าคอนเสริ์ตแม้แต่น้อย
ผมนั่งรอเวลาประตูเปิดไปเรื่อยๆ ดูบรรยากาศซ้ำเดิม จนกระทั่งเวลา 16.45 น. ผมจึงได้เข้าไปในที่นั่งเพื่อรับชมคอนเสริ์ต ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก
ภาพบรรยากาศบริเวณหน้าคอนเสริ์ต
ตอนที่ 1 การมาถึง และวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ2017
ตอนที่ 2 Panzer Vor !!!
Friday, November 3, 2017
รายงานการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นสไตล์คนบ้าอนิเมะ ตอนที่ 2 Panzer Vor!!!
ยินดีต้อนรับวันท้องฟ้าสดใส
หลังจากผ่านพ้นวันท้องฟ้ามืดครึ้มไปแล้ว วันที่ 29 กันยายน 2560 เป็นวันที่ท้องฟ้าสดใส หลังจากที่ผมได้ Check Out ออกจาก Tobitaso แล้ว พี่ใจดีของโรงแรม ได้พาผมและแขกคนญี่ปุ่น อีก 1 คน ไปส่งยังสถานีรถไฟ Oarai เมื่อถึง สถานีแล้ว ผมก็ขอบคุณพี่ใจดี และ กล่าวอำลา แขกคนญีปุ่นที่ติดรถมากับผม
หลังจากนั้น ผมได้นำสัมภาระที่ติดตัวมา ไปฝากไว้ที่ตู้ Locker ในราคา 600 เยน และ จากนั้น ก็ได้เที่ยวชม ห้อง Information ของสถานีรถไฟ ที่ตรงข้ามกับ มินิมาร์ท สักพักหนึ่ง และในขณะเดียวกัน คุณป้าใจดีประจำห้อง ก็ได้มอบแผ่นกระดาษสำหรับ Stamp สาวน้อยรถถัง และ ถามผมว่า จะเล่น Challenge ใหม ซึ่งผมเองก็ตอบตกลง อย่างไม่ลังเล
Enter Enter Mission
แผ่นกระดาษสำหรับ Stamp จะมีช่องวงกลมอยู่ 8 ช่อง ให้เรานั้น Stamp รูปตัวละครตามสถานที่ต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ ผมเริ่มต้น Stamp ตัวละคร Yukari เป็นอันดับแรก ที่สถานีรถไฟ Oarai และเดินออกจากที่นั่น เพื่อมุ่งสู่ Resort Outlet Oarai เพื่อเอารถจักรยานที่ผมได้จองไว้ เป็นจักรยานลาย Saori Takebe สีเหลิือง ขนาดที่นั่งพอดี พอไปถึง ผมเองก็กดกริ่งเรียกเจ้าหน้าที่ เพื่อติดต่อเช่าจักรยาน พร้อมจ่ายเงิน 1500 เยน และเมื่อได้จักรยาน ผมเองก็ไม่รอช้า ที่จะปั่นเพืิ่อเล่นเกมส์ Challenge เก็บ Stamp
จุดที่สองในการเก็บ Stamp คือ Oarai Hotel สำหรับเก็บ แสตมป์ Mako Reizei ผมเองได้ถ่ายรูปคู่กับแสตนด์น้อง Mako ที่จุดนี้ และจากนั้น ก็มุ่งหน้า ไปยัง Oarai Aquarium.
เมื่อผมไปถึง Oarai Aquarium ผมได้พบเจอกับรสบัสหลายคัน ที่พาเด็กนักเรียน มาทัศนศึกษา Aquarium แห่งนี้ ด้วยบรรยากาศที่ชวนชุลมุนวุ่นวาย ผมจึงถามเจ้าหน้าที่ เพื่อหาที่จอดจักรยาน ซึ่งอยู่ข้างทางเข้า Aquarium ใน Aquarium ผมเองได้ถามแม่ค้าขายของเกี่ยวกับจุด Stamp หลังจากนั้นผมจึง Stamp แล้วรีบออกมา เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ศาลเจ้า ประจำเมือง Oarai ระหว่างทาง ผมเองได้แวะ Tourist Information เพื่อถ่ายรูปกับน้องสาวแว่น ในชุดนักเรียนของ โรงเรียน Oarai อีกด้วย
เมื่อถึงศาลเจ้าเมือง Oarai ผมจอดจักรยานพร้อมล็อคล้อ และกดตู้น้ำเพื่อซื้อน้ำดื่ม และพักผ่อนในบรรยากาศที่ร่มรื่น จากนั้น ผมก็เริ่มสำรวจและถ่ายรูป ที่บริเวณรอบศาลเจ้า
การพบปะอีกครั้งกับผู้ใหญ่ใจดี
เมื่อผมถ่ายรูปและเยี่ยมชมศาสลเจ้าได้สักพักหนึ่ง ก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเองได้รู้จักและได้ติดต่อกับเขาเมื่อผมเที่ยวเมือง Oarai ครั้งแรกในเดือน มีนาคม ปี 2558 การสนทนาของผมและเขา เป็นการสื่อสารที่ถึงแม้จะคนละภาษา แต่ก็ยังเข้าใจในสิ่งที่พูดได้บ้าง ผู้ใหญ่ท่านนี้ขอนัดผมทานข้าว ที่ร้านอาหารอิตาลีกลางเมือง Oarai ที่ผมเคยหลงไปดูบรรยากาศ และได้พูดคุยจนรู้จักกันในปี 2558 หลังจากที่ผมได้เขีัยนป้ายคำขอพรแล้ว จึงมุ่งหน้า ไปยังร้านอาหารดังกล่าว
ในการนัดทานข้าวครั้งนี้ เราพูดคุยกันหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่อง อนิเมะ และ จุด Stamp ตัวละครสาวน้อยรถถังใหม่ ๆ ที่เพิ่งมีหลังจาก Girls Und Panzer ออกฉายแล้ว เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ผู้ใหญ่ท่านนี้นี้ก็พาผมไปร้านอาหารที่มี Stand Saori Takebe และผมก็ได้ Stamp พร้อมกับอุุดหนุนแฟ้มลาย Saori Takebe อีกด้วย
จากนั้นก็แยกย้ายกัน ผู้ใหญ่ท่านนี้ก็กลับไปทำงาน ส่วนผมก็ ดำเนินเก็บ Stamp ละครตัวที่เหลือต่อไป
Mission Continue.
การเก็บ Stamp ตัวละคร ในเมืองนี้ การไปแต่ละจุดของ Stamp นั้น ผมอ้างอิงจากแผนที่ Stand ที่เตรียมไว้ ทุกจุดที่ Stamp นั้นจะเป็นห้างร้านหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไป ได้ทำให้เราเรียนรู้ในเมืองนี้มีกิจการอะไรบ้าง และแต่ละจุด ก็มีการประดับรูปจากอนิเมะ Girl Und Panzer ไม่มากก็น้อย นอกจากจะได้รับความประทับใจ จากอนิเมะแล้ว ยังได้ออกกำลังกาย ด้วยการปั่นจักรยานอีกด้วย
Mission Completed.
เมื่อถึงเวลาเย็น ประมาณ 16.20 น. ผมได้นำรถจักรยานคืน และ รับเงิน 1000 เยน คืน หลังจากนี้จะเป็นช่วงเวลาของการ เยี่ยมชม Garupan Gallery ซึี่งอยู่ชั้นบน ของ Oarai Outlet Resorts ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ ผมประทับใจในสาว Maid ชุดสีเหลือง และ สิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้ Promote Girl Und Panzer ในเมือง Oarai ที่ผ่านมา ใน Gallery นี้ผมได้เปย์ ผ้าเช็ดตัว ลาย Nishizumi Miho และ ลูกอมกล่อง อลูมิเนียมอีกด้วย และยังไม่พอ ยังไปเปย์ ขนมที่ระลึก ที่ Oarai Marine Tower ซึ่งมีขนม มันจู Sweet Potato และ Roll Cake สองพี่น้อง Nishizumi การเปย์ครั้งนี้ เสียมากกว่า 6000 เยน
แล้วเราจะพบกันใหม่
หลังจากที่เปย์เสร็จแล้ว ผมได้มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ Oarai ในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เมื่อถึงสถานี ผมเองได้นำของออกจากตู้ ซื้อตั่วรถไฟไป Kashiwa และ เสี่ยงโชคทิ้งท้าย ด้วย 600 เยนเพื่อแฟ้มใสลายน้องปี 1 ทีมกระต่ายควงมีด 2 ครั้งจึงจะได้ลายน้อง Azusa Sawa ที่ผมชอบทีี่สุด จากนั้นจึงรอรถไฟ สาย Kashima-Rinkai Railway เพื่อมุ่งหน้าไป เมือง Mito เพื่อที่จะมุ่งสู่ Kashiwa และ Ikebukuro ด้วยรถไฟ สาย Joban Line ตามลำดับ
การเดินทางจาก Oarai ไป Tokyo.
Oarai Station ------ (Kashima Rinkai Railway Line) ----> Mito Station ----(Joban Line)-------> Nippori Station ------(Yamanote Line) ------> Tokyo Station.
ตอนทีั่ 1 การมาถึง และวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ2017
หลังจากผ่านพ้นวันท้องฟ้ามืดครึ้มไปแล้ว วันที่ 29 กันยายน 2560 เป็นวันที่ท้องฟ้าสดใส หลังจากที่ผมได้ Check Out ออกจาก Tobitaso แล้ว พี่ใจดีของโรงแรม ได้พาผมและแขกคนญี่ปุ่น อีก 1 คน ไปส่งยังสถานีรถไฟ Oarai เมื่อถึง สถานีแล้ว ผมก็ขอบคุณพี่ใจดี และ กล่าวอำลา แขกคนญีปุ่นที่ติดรถมากับผม
หลังจากนั้น ผมได้นำสัมภาระที่ติดตัวมา ไปฝากไว้ที่ตู้ Locker ในราคา 600 เยน และ จากนั้น ก็ได้เที่ยวชม ห้อง Information ของสถานีรถไฟ ที่ตรงข้ามกับ มินิมาร์ท สักพักหนึ่ง และในขณะเดียวกัน คุณป้าใจดีประจำห้อง ก็ได้มอบแผ่นกระดาษสำหรับ Stamp สาวน้อยรถถัง และ ถามผมว่า จะเล่น Challenge ใหม ซึ่งผมเองก็ตอบตกลง อย่างไม่ลังเล
แผ่นกระดาษสำหรับเก็บ Stamp ในการเล่น Challenge |
Enter Enter Mission
แผ่นกระดาษสำหรับ Stamp จะมีช่องวงกลมอยู่ 8 ช่อง ให้เรานั้น Stamp รูปตัวละครตามสถานที่ต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ ผมเริ่มต้น Stamp ตัวละคร Yukari เป็นอันดับแรก ที่สถานีรถไฟ Oarai และเดินออกจากที่นั่น เพื่อมุ่งสู่ Resort Outlet Oarai เพื่อเอารถจักรยานที่ผมได้จองไว้ เป็นจักรยานลาย Saori Takebe สีเหลิือง ขนาดที่นั่งพอดี พอไปถึง ผมเองก็กดกริ่งเรียกเจ้าหน้าที่ เพื่อติดต่อเช่าจักรยาน พร้อมจ่ายเงิน 1500 เยน และเมื่อได้จักรยาน ผมเองก็ไม่รอช้า ที่จะปั่นเพืิ่อเล่นเกมส์ Challenge เก็บ Stamp
จุดที่สองในการเก็บ Stamp คือ Oarai Hotel สำหรับเก็บ แสตมป์ Mako Reizei ผมเองได้ถ่ายรูปคู่กับแสตนด์น้อง Mako ที่จุดนี้ และจากนั้น ก็มุ่งหน้า ไปยัง Oarai Aquarium.
เมื่อผมไปถึง Oarai Aquarium ผมได้พบเจอกับรสบัสหลายคัน ที่พาเด็กนักเรียน มาทัศนศึกษา Aquarium แห่งนี้ ด้วยบรรยากาศที่ชวนชุลมุนวุ่นวาย ผมจึงถามเจ้าหน้าที่ เพื่อหาที่จอดจักรยาน ซึ่งอยู่ข้างทางเข้า Aquarium ใน Aquarium ผมเองได้ถามแม่ค้าขายของเกี่ยวกับจุด Stamp หลังจากนั้นผมจึง Stamp แล้วรีบออกมา เพื่อมุ่งหน้าไปยัง ศาลเจ้า ประจำเมือง Oarai ระหว่างทาง ผมเองได้แวะ Tourist Information เพื่อถ่ายรูปกับน้องสาวแว่น ในชุดนักเรียนของ โรงเรียน Oarai อีกด้วย
เมื่อถึงศาลเจ้าเมือง Oarai ผมจอดจักรยานพร้อมล็อคล้อ และกดตู้น้ำเพื่อซื้อน้ำดื่ม และพักผ่อนในบรรยากาศที่ร่มรื่น จากนั้น ผมก็เริ่มสำรวจและถ่ายรูป ที่บริเวณรอบศาลเจ้า
การพบปะอีกครั้งกับผู้ใหญ่ใจดี
เมื่อผมถ่ายรูปและเยี่ยมชมศาสลเจ้าได้สักพักหนึ่ง ก็มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่ผมเองได้รู้จักและได้ติดต่อกับเขาเมื่อผมเที่ยวเมือง Oarai ครั้งแรกในเดือน มีนาคม ปี 2558 การสนทนาของผมและเขา เป็นการสื่อสารที่ถึงแม้จะคนละภาษา แต่ก็ยังเข้าใจในสิ่งที่พูดได้บ้าง ผู้ใหญ่ท่านนี้ขอนัดผมทานข้าว ที่ร้านอาหารอิตาลีกลางเมือง Oarai ที่ผมเคยหลงไปดูบรรยากาศ และได้พูดคุยจนรู้จักกันในปี 2558 หลังจากที่ผมได้เขีัยนป้ายคำขอพรแล้ว จึงมุ่งหน้า ไปยังร้านอาหารดังกล่าว
ในการนัดทานข้าวครั้งนี้ เราพูดคุยกันหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่อง อนิเมะ และ จุด Stamp ตัวละครสาวน้อยรถถังใหม่ ๆ ที่เพิ่งมีหลังจาก Girls Und Panzer ออกฉายแล้ว เมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ผู้ใหญ่ท่านนี้นี้ก็พาผมไปร้านอาหารที่มี Stand Saori Takebe และผมก็ได้ Stamp พร้อมกับอุุดหนุนแฟ้มลาย Saori Takebe อีกด้วย
จากนั้นก็แยกย้ายกัน ผู้ใหญ่ท่านนี้ก็กลับไปทำงาน ส่วนผมก็ ดำเนินเก็บ Stamp ละครตัวที่เหลือต่อไป
Mission Continue.
การเก็บ Stamp ตัวละคร ในเมืองนี้ การไปแต่ละจุดของ Stamp นั้น ผมอ้างอิงจากแผนที่ Stand ที่เตรียมไว้ ทุกจุดที่ Stamp นั้นจะเป็นห้างร้านหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันไป ได้ทำให้เราเรียนรู้ในเมืองนี้มีกิจการอะไรบ้าง และแต่ละจุด ก็มีการประดับรูปจากอนิเมะ Girl Und Panzer ไม่มากก็น้อย นอกจากจะได้รับความประทับใจ จากอนิเมะแล้ว ยังได้ออกกำลังกาย ด้วยการปั่นจักรยานอีกด้วย
Mission Completed.
เมื่อถึงเวลาเย็น ประมาณ 16.20 น. ผมได้นำรถจักรยานคืน และ รับเงิน 1000 เยน คืน หลังจากนี้จะเป็นช่วงเวลาของการ เยี่ยมชม Garupan Gallery ซึี่งอยู่ชั้นบน ของ Oarai Outlet Resorts ในการเยี่ยมชมครั้งนี้ ผมประทับใจในสาว Maid ชุดสีเหลือง และ สิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้ Promote Girl Und Panzer ในเมือง Oarai ที่ผ่านมา ใน Gallery นี้ผมได้เปย์ ผ้าเช็ดตัว ลาย Nishizumi Miho และ ลูกอมกล่อง อลูมิเนียมอีกด้วย และยังไม่พอ ยังไปเปย์ ขนมที่ระลึก ที่ Oarai Marine Tower ซึ่งมีขนม มันจู Sweet Potato และ Roll Cake สองพี่น้อง Nishizumi การเปย์ครั้งนี้ เสียมากกว่า 6000 เยน
แล้วเราจะพบกันใหม่
หลังจากที่เปย์เสร็จแล้ว ผมได้มุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ Oarai ในขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เมื่อถึงสถานี ผมเองได้นำของออกจากตู้ ซื้อตั่วรถไฟไป Kashiwa และ เสี่ยงโชคทิ้งท้าย ด้วย 600 เยนเพื่อแฟ้มใสลายน้องปี 1 ทีมกระต่ายควงมีด 2 ครั้งจึงจะได้ลายน้อง Azusa Sawa ที่ผมชอบทีี่สุด จากนั้นจึงรอรถไฟ สาย Kashima-Rinkai Railway เพื่อมุ่งหน้าไป เมือง Mito เพื่อที่จะมุ่งสู่ Kashiwa และ Ikebukuro ด้วยรถไฟ สาย Joban Line ตามลำดับ
การเดินทางจาก Oarai ไป Tokyo.
Oarai Station ------ (Kashima Rinkai Railway Line) ----> Mito Station ----(Joban Line)-------> Nippori Station ------(Yamanote Line) ------> Tokyo Station.
ตอนทีั่ 1 การมาถึง และวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ2017
Subscribe to:
Posts (Atom)