Thursday, November 2, 2017

รายงานการเดินทางเที่ยวญี่ปุ่นสไตล์คนบ้าอนิเมะ ตอนที่ 1 การมาถึง และวันที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ

ประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม ซึ่งแต่ละที่นั้นได้ถูกนำไปเป็นส่วนหนึ่งของฉากในอนิเมะหลายเรื่องที่ผมเองชื่นชอบ และด้วยความชื่นชอบที่ผมมี จึงได้ทำให้ผมตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นสไตล์คนบ้าอนิเมะ

การท่องเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้  ใช้เวลาประมาณ 10 คืน 11 วัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่วันทีี่ 29 กันยายน 2560 - 8 ตุลาคม 2560 ผมเองได้เที่ยวเมืองต่าง ๆ ทั้งในภูมิภาคตันโต และ ภูมิภาคคันไซ แต่ละพื้นที่นั้น ก็มอบเรื่องราวและความประทับใจที่แตกต่างกันไป จนผมอยากจะกลับมาเยือนอีกครั้งแล้วครั้งเล่า

เมืองและสถานที่ที่่ผมไปเยี่ยมเยือนตามลำดับ

1.Narita , Chiba.
2.Oarai, Ibaraki.
3.Ikebukuro, Tokyo.
4.MetLifeDome, Saitama.
5.Akihabara, Tokyo.
6.Yokosuka, Kanagawa.
7.Numazu, Shizuoka.
8.Onomichi, Hiroshima.
9.Takehara, Hiroshima.
10. Kyoto.

อนิเมะที่ผมไปตามรอยตามลำดับ

1.Girls Und Panzer - Oarai Ibaraki





2. 2nd Live Happy party train concert at MetLifeDome, Saitama.




3. Love Live School Idol Project - Akihabara, Tokyo.


4. High fleet School girl (Hai Furi) - Yokosuka, Kanagawa.

5. Love Live School Idol Project Sunshine - Numazu, Shizuoka.


6. Tamayura Hitotose - Onomichi, Takehara Hiroshima.
7. Inari Kon Kon Koi Iroha - Inari ,Kyoto.

8. Hibike Euphonium - Uji, Kyoto.

เดินทางสู่ญี่ปุ่น

การเดินทางสู่ญี่ปุ่นครั้งนี้ ผมเดินทางด้วยสายการบิน Thai Air Asia X เที่ยวบิน XJ 606 จากสนามบินดอนเมือง  สู่สนามบิน นาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยตั๋วที่ผมทำการจองไว้ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน ในราคา 4190.00 บาท  ในตอนเช้าของวันที่ 27 กันยายน 2560 และถึงเมื่อตอนเย็นในวันเดียวกัน  เมื่อลงจากเครื่องบินแล้ว ผมก็ต้องเดินเท้าไปยัง ต.ม. ซึ่งน่าจะใกลจากเครื่องบินกว่า 500 เมตร พอถึง ต.ม. ปรากฏว่าคนเยอะมาก ซึ่งมาจากหลายประเทศ พอผมผ่าน ต.ม. แล้วก็ไปยังสถานีรถไฟ สนามบิน นาริตะ และเดินทาง ไปเมือง Narita  ด้วย รถไฟสาย Keisei-Line จาก Narita Airport Station  ถึง Keisei-Narita Station เมื่อถึงเมือง Narita  แล้ว ก็เดินทางไปยังที่พัก International Guesthouse Azure Narita ซึ่งเป็น Guesthouse ใน Apartment ห่างจากสถานีรถไฟ ประมาณ 800 เมตร ผมใช้เวลาพักที่นี่ประมาณ 1 คืน และ Check Out โดยไม่ได้บอกกล่าวผู้ดูแล ในวันถัดไป 
สนามบิน นาริตะ
เมือง นาริตะ

Panzer Vor เมื่่อวันฝนตก
วันที่ 28 กันยายน 2560 ผมตื่นเช้าในวันที่ฝนตก การเดินทางออกจาก International Guesthouse Azure Narita นั้น ลำบากเป็นอย่างมาก และต้องซื้อร่มจากร้าน Family Mart ที่อยู่ข้างเคียง เพื่อที่จะใช้เดินไปยังสถานีรถไฟ JR Narita ได้ เมื่อถึง JR แล้ว ผมตัดสินใจซื้อตั๋วเพื่อไปสถานี Kashima ซึ่งเป็นสถานีเดียวที่พาผมไปถึงเมือง Oarai เพื่อตามรอยอนิเมะ สาวน้อยรถถัง Girl Und Panzer ได้

การเดินทางจาก Narita ไปถึงสถานี Kashima ได้นั้น จะต้องเปลี่ยนขบวนที่ สถานี Katori เพื่อรอรถไฟสาย Kashima Line เมื่อผมถึงสถานี Katori ในเวลา 10.00 น. ตามเวลาญี่ปุ่นแล้ว ผมต้องรอรถไฟขบวนถัดไป จนถึงเวลา 12.24 น. เมื่อขบวนรถไฟมาถึง  ผมจึงไม่รอรีที่จะขึ้นไปนั่งอย่างสบายใจ  เส้นทางที่รถไฟแล่นผ่านนั้น จะผ่านสวนดอกไม้ และ ทะเลสาบ ซึ่งเป็นทิิวทัศน์สวยงามมาก ผมใช้เวลาโดยสารรถไฟขบวนนี้ 20 กว่านาที พอถึงสถานี Kashima ผมก็ขึ้นรถไฟ ดีเซลราง สาย Kashima - Rinkai Railway เพื่อไปเมือง Oarai

การเดินทางจาก Narita ไปยัง Oarai

 Narita Station --- (Narita Line) -----> Katori Station ---(Kashima Line)----> Kashima Station -- (Kashima- Rinkai Railway Line) ---> Oarai Station


รถไฟสาย Kashima - Rinkai Railway เป็นขบวนรถไฟที่บริการในพิ้นที่ชนบทของเมือง Ibaraki เส้นทางรถไฟที่พาดผ่านนั้น เต็มไปด้วยบรรยากาศ สไตล์ชนบทของญี่ปุ่น ซึ่งถ้ามองเผิน ๆ แล้ว อาจจะไม่ต่างจากบ้านเรานัก แต่ละสถานีนั้น ใกลกันมาก ถ้าให้เทียบกันแล้ว ระยะทางเท่ากับ การเดินทาง จาก อำเภอ แม่จัน ไปยัง อำเภอ เมือง จังหวัดเชียงรายเลยทีเดียว ขบวนรถไฟ ผ่านไปอุโมงค์หลายจุด ในแต่ละจุดที่รถไฟแล่นผ่าน มันทำให้ผมระลึกถึงสถานที่ที่ผมเคยผ่านเมื่อตอนมาเที่ยวเมือง Oarai ในปี 2558 การเดินทางนี่้ผมใช้เวลา 1 ชั่วโมง
สถานีรถไฟเมือง Oarai

เมื่อถึงเมือง Oarai แล้ว ผมจึงยื่นตั๋วรถไฟที่มาจาก Narita และจ่ายค่าปรับ 1090 เยน ผมรีบออกจากสถานี และรีบเดินตรงไปยัง Resort Outlet Oarai เพื่อที่จะเอาจักรยานที่จองไว้มาปั่นเล่นรอบเมือง แต่น่าเสียดายที่วันนี้ฝนตก เลยหยุดให้บริการ และด้วยการที่ผมยังไม่ได้กินอาหารเช้า ผมจึงตัดสินใจ ไปยังชั้นบนสุดของ Oarai Marine Tower ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้าน Panzer Vor ภายในร้านนั้น ตกแต่งด้วยภาพการ์ตูนอนิเมะ สาวน้อยรถถัง Girl Und Panzer โดยเฉพาะ Rosehip สาวจากโรงเรียน St. Glorina เมื่อผมนั่งลงยังโต๊ะเรียนที่มีรถถังวางอยู่ ผมตัดสินใจสั่งอาหาร คือ ชา Dargeling และ แกงกะหรี่ของสาวน้อย Saori Takebe ที่ผมชื่นชอบนั่นเอง การกินอาหารเป็นไปอย่างผ่อนคลาย มีเสียงเพลงจากอนิเมะกล่อม พร้อมกับชมวิวเมือง Oarai และก็มีลุกไปถ่ายรูปบรรยากาศรอบร้านบ้าง ผมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงกินข้าวพร้อมดื่มชาเสร็จ จึงตัดสินใจไปที่พัก ด้วยการนั่งรถบัส จาก ตัวเมือง Oarai ไปยัง ที่พัก

ภาพบรรยากาศภายในร้าน Panzer Vor ณ Oarai Marine Tower.












ผมใช้เวลารอรถเมล์นานมาก จึงตัดสินใจเดินไป แต่โชคดี มีคุณป้าที่ขับรถมา พาผมไปส่งยังที่พัก คุณป้ากับผม คุยกันระหว่างทาง ด้วยความรู้ภาษาญี่ปุ่นของผม ที่มีอยู่น้อยนิด เมื่อถึงที่พักแล้ว ผมก็ขอบคุณ คุณป้าคนนั้นเป็นคนที่ผมประทับใจไม่รู้ลึม ที่พักคือ Tobitaso ผมได้เช็คอิินแล้ว รับเข็มกลัดน้อง Saori Takebe พร้อม ผ้าเช็ดหน้าลายสาวน้อยรถถัง 1 ผืน ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ผมไม่ได้ออกไปใหนเลย นอกจาก นอนในห้อง และออกไปซื้อโซบะ ที่ 7-11 ที่อยู่ใกล้ ๆ 
 
การอาบน้ำใน Tobitaso เป็นการอาบน้ำแบบญี่ปุ่น ซึ่งผมต้องเข้าไปตอนดึกมาก และ ต้องรีบอาบให้เสร็จ เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น เพราะผมเองมาจากประเทศที่คนมักไม่รวมอาบน้ำกับคนอื่น

สี่งที่ต้องเตรียมก่อนไปเมือง Oarai :
1. ถ้าต้องการใช้จักรยาน ลายสาวน้อยรถถัง  จองได้ที่ : http://rmat.jp/a/d/2037682
สามารถเลือกว่า จะเอาเป็นตัวละครอะไร  สามารถเช่าได้ทั้งวัน ค่าเช่า 500 เยน มัดจำ 1000 เยน (ค่ามัดจำจะคืนให้เมื่อคืนจักรยาน)

2. กระดาษเปล่า อย่างน้อย 4 ใบ เพราะแต่ละจุด จะมีตรายางหน้าตัวละครให้ปั้ม

3. แผนที่ Stand ตัวละคร : Download ได้ทีั่ http://www.oarai-info.jp/girls-und-panzer/Hide-and-seek_map-l.pdf

Website oarai Girl Und Panzer : http://www.oarai-info.jp/girls-und-panzer/

No comments:

Post a Comment